518 จำนวนผู้เข้าชม |
กระบวนการเสริมกระดูกของแคลเซียมเป็นกระบวนการที่ซับซ้อน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการดูดซึม การขนส่ง และการสะสมของแคลเซียมในร่างกาย โดยแคลเซียมเป็นแร่ธาตุสำคัญที่มีบทบาทหลักในการเสริมสร้างและรักษาความแข็งแรงของกระดูก แล้วแคลเซียมสามารถเข้าไปเสริมกระดูกได้อย่างไร วันนี้ NBL จะมาสรุปกระบวนการเสริมกระดูกของแคลเซียมที่คุณต้องทราบ โดยเราจะสามารถอธิบายกระบวนการเสริมกระดูกของแคลเซียมได้ดังนี้
กระบวนการเสริมกระดูกของแคลเซียมสามารถเข้าไปเสริมกระดูกได้ผ่านกระบวนการทางสรีรวิทยาหลายขั้นตอน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการดูดซึม การขนส่ง และการสะสมของแคลเซียมในร่างกาย ดังนี้
-การดูดซึมแคลเซียมในลำไส้
-การบริโภคอาหารที่มีแคลเซียม: กระบวนการเสริมกระดูกของแคลเซียม ซึ่งแคลเซียมเข้าสู่ร่างกายผ่านการบริโภคอาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่น ผลิตภัณฑ์นม ผักใบเขียว และถั่ว
-การดูดซึมในลำไส้เล็ก: แคลเซียมจากอาหารหรืออาหารเสริมถูกดูดซึมผ่านผนังลำไส้เล็กเข้าสู่กระแสเลือด การดูดซึมนี้ได้รับการสนับสนุนจากวิตามินดี ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมแคลเซียม
แคลเซียมที่ถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดจะถูกขนส่งไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย รวมถึงกระดูกระดับแคลเซียมในเลือดถูกควบคุมอย่างเข้มงวดโดยฮอร์โมนพาราไทรอยด์ (PTH) และแคลซิโทนิน (calcitonin) ซึ่งปรับการปล่อยและการสะสมแคลเซียมตามความต้องการของร่างกาย
กระดูกทำหน้าที่เป็นที่เก็บแคลเซียมในร่างกาย แคลเซียมจะถูกสะสมในรูปของแคลเซียมฟอสเฟต ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของโครงสร้างกระดูก เซลล์สร้างกระดูก (ออสติโอบลาสต์): ออสติโอบลาสต์มีบทบาทในการสร้างกระดูกใหม่ โดยสะสมแคลเซียมและฟอสเฟตลงในเนื้อกระดูก ทำให้กระดูกแข็งแรงและหนาแน่นขึ้น
เซลล์สลายกระดูก (ออสติโอคลาสต์): ออสติโอคลาสต์ทำหน้าที่สลายกระดูกเก่าเพื่อปล่อยแคลเซียมเข้าสู่กระแสเลือดเมื่อร่างกายต้องการ การสลายกระดูกนี้ช่วยรักษาสมดุลของแคลเซียมในเลือดและกระดูก
การบริโภคอาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่น ผลิตภัณฑ์นม, ผักใบเขียว, ถั่ว และปลาที่มีกระดูกอ่อน ช่วยให้ร่างกายได้รับแคลเซียมเพียงพอ
วิตามินดีช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมในลำไส้ และสามารถได้รับจากการสัมผัสแสงแดด หรือจากอาหารและอาหารเสริม
การออกกำลังกาย โดยเฉพาะการแบกรับน้ำหนัก เช่น เดิน วิ่ง หรือการยกน้ำหนัก ช่วยกระตุ้นการเสริมสร้างกระดูก
ฮอร์โมนพาราไทรอยด์ (PTH) และแคลซิโทนิน (calcitonin) ช่วยควบคุมระดับแคลเซียมในเลือดและกระดูก ฮอร์โมนเพศ เช่น เอสโตรเจนและเทสโทสเตอโรน มีบทบาทในการรักษามวลกระดูก โดยเฉพาะในวัยหมดประจำเดือนเมื่อระดับเอสโตรเจนลดลง
เพื่อให้ทุกวันของคุณเป็นการรับแคลเซียมตามที่ร่างกายต้องการ ด้วย NBL Calcium Plus Vitamin D3 & K1 แคลเซียมเหลว (Liquid Calcium) ชนิดดูดซึมง่าย ผสานกับ Vitamin D3 & K1 ที่ให้คุณได้รับแคลเซียมคุณภาพ เพียงพอในทุกๆ วัน